วันนี้ (7 เม.ย.) เวลาประมาณ 07.48 น. หน่วยกู้ภัยพุทไธสวรรย์ บางปะอิน รายงานอุบัติเหตุรถยนต์ BMW สีขาว ทะเบียน 5กบ- 5248 กรุงเทพมหานคร พุ่งชนอัดต้นไม้ข้างทาง บริเวณถนนกาญจนาภิเษกฝั่งตะวันตก ฝั่งขาออกมุ่งหน้าทางแยกต่างระดับบางปะอิน ก่อนถึงสะพานข้ามทางรถไฟเชียงรากเล็กน้อย ถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 9 หลักกิโลเมตรที่ 79 มุ่งหน้าสระบุรี ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา
สภาพรถยนต์ BMW ของน้องอิน พังยับเยินเสียหายทั้งคัน
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถเก๋ง BMW สีขาวสภาพรถพังยับเยิน เศษชิ้นส่วนรถกระจายเกลื่อน ท่ามกลางฝนตกถนนลื่น และพบร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นหญิงติดอยู่ภายในรถ สภาพกะโหลกศีรษะแตก มีเลือดไหลที่บริเวณศรีษะจำนวนมาก ข้อมือหัก เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงตัดสินใจใช้เครื่องมือตัดถ่างนำร่างออกมา จากการตวรจสอบเอกสารผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือ น.ส.ณัฐนิชา เชิดชูบุพการี หรือ “น้องอิน” อายุ 20 ปี นักแสดงวัยรุ่นที่มีผลงานมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำร่างผู้เสียชีวิตส่งไปยังสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ รังสิต และมาถึงในเวลาประมาณ 12.00 น. สาเหตุเบื้องต้น
เจ้าหน้าที่คาดว่านักแสดงสาวขับรถมาในเส้นทางปกติด้วยความเร็ว แต่ระหว่างทางเกิดฝนตกหนัก ถนนลื่น จึงทำให้รถเสียหลักพุ่งชนกับป้ายบอกทาง เป็นเหตุทำให้รถลอยไปชนต้นก้ามปูที่อยู่ข้างทาง ห่างออกไปประมาณ 20 เมตร อย่างรุนแรงเป็นเหตุให้เสียชีวิต
เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยพุทไธสวรรย์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว
ด้าน เจ้าหน้าที่กู้ภัย กล่าวว่า ยังไม่ทราบเวลาเกิดเหตุที่แน่ชัด คาดว่าน่าจะเกิดตอนเช้ามืด เพราะลักษณะศพเริ่มซีด โดยมีคนแจ้งเหตุเข้ามาเวลา 07.00 น. และเจ้าหน้าที่เดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุเวลา 07.30 น. โดยจุดเกิดดังกล่าวมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อย เนื่องจากถนนแคบ มีช่องจราจรเพียง 2 ช่องเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นทางเบี่ยงและเป็นคอสะพาน
หลังจากนั้น เวลาประมาณ 12.50 น. นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ได้เดินทางมาที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ รังสิต ในฐานะต้นสังกัดและผู้ใหญ่คนสนิท เปิดเผยว่า น้องอิน นับถือตนเหมือนญาติผู้ใหญ่ในครอบครัว เพราะรู้จักกันมาตั้งแต่น้องอินยังเด็ก น้องอินอยู่กับแม่สองคนได้คุยกับน้องครั้งสุดท้ายเมื่อวานตอนเที่ยงผ่านไลน์ เรื่องธุรกิจเครื่องสำอาง ที่จริงหลังจากนี้จะมีนัดคุยกันแต่ตนไม่ว่าง น้องอินก็เร่งอยากเจอเร็วๆ ไม่รู้ว่าเป็นลางบอกเหตุหรือไม่ แต่ได้เจอตัวน้องครั้งสุดท้ายเมื่อ 3 วันที่แล้ว โดยได้นัดกินข้าวกันน้องอินอยากให้ตนรับรองว่าทำงานในบริษัท เพราะจะขอวีซ่าไปแคนาดา ส่วนเรื่องการขับรถของน้อง ตนได้เคยเตือนว่าอย่าเพิ่งขับเลย ได้เคยนั่งรถที่น้องขับคันที่เกิดเหตุ น้องค่อนข้างขับเร็วและเป็นมือใหม่ จนกระทั่งรู้ข่าวเมื่อเช้าก็รู้สึกเสียใจเพราะเร็วเกินไป
ด้าน “เบล” แฟนหนุ่มของน้องอิน ได้ให้ข้อมูลว่า น้องอินได้เดินทางไปพัทยากับกลุ่มเพื่อน เพื่อดูคอนเสิร์ต จากนั้นได้เดินทางเพื่อจะไปบ้านเพื่อนอีกคนที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยได้คุยกันครั้งสุดท้ายเวลา เที่ยงคืนครึ่งเกือบตี 1 เป็นเวลาที่เดินทางออกจากพัทยา น้องอินเพิ่งขับรถได้เพียง 1 ปี ขับรถเร็วปานกลางและขับรถไม่แข็ง ส่วนรูปที่ปรากฏในอินสตราแกรมน้องอิน คือรูปที่กำลังไปพัทยา โดย “เบล” แฟนหนุ่ม ยังเล่าอีกว่า ได้คุยกับเพื่อนที่ไปพัทยากับน้องอินแล้ว เพื่อนๆได้ห้ามทักท้วงน้องอินว่าอย่าเพิ่งไปอยุธยา แต่น้องอินก็ยืนกรานตัดสินใจจะขับรถออกมา
ด้าน นางลัดดา เชิดชูบุพการี คุณแม่ของน้องอิน เปิดเผยพร้อมทั้งน้ำตาว่า ตนได้คุยพ่อของน้องอิน ซึ่งพ่อได้บอกว่ามีลางสังหรณ์ และได้บอกกับน้องอินว่าให้ดูแลตัวเอง นางลัดดา กล่าวว่า ได้คุยกับน้องอินครั้งสุดท้ายเมื่อ ช่วงต 01.17 น. โดยน้องอินบอกกับตนว่าอยู่ที่คอนโด จากนั้นก็ไม่ได้คุยกัน เข้าใจว่าน้องอินเข้านอนแล้ว จนกระทั่งมารู้ข่าวตอนเช้า นางลัดดา กล่าวว่า ตนไม่ได้ติดใจกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น และไม่อยากให้แพทย์ทำการผ่าชันสูตร ซึ่งในวันพรุ่งนี้ตนจะมาแจ้งเรื่องไม่ขอให้แพทย์ผ่าชันสูตรและยื่นเอกสารเพื่อรับศพออกไปเพื่อจัดงานศพต่อไป โดยทางครอบครัวจะจัดงานสวดพระอภิธรรมที่วัดราชสิงขร โดยตั้งสวดศพเป็นเวลา 3 คืน และทำพิธีเผาในวันที่ 11 เม.ย.
ด้าน นางอัมพร วิสุทธิปะภา อายุ 62 ปี พี่สาวแม่น้องอิน เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่โทรศัพท์มาแจ้งว่ารถ BMW โดยมีน้องอินเป็นผู้ขับขี่ประสบอุบัติเหตุ ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งตอนแรกยังไม่มีใครเชื่อเพราะคิดว่าเป็นแก๊งต้มตุ๋น จึงตกลงกันว่าจะไปดูที่เกิดเหตุด้วยตนเอง แต่ยังไม่มีใครกล้าบอกนางลัดดา จนกระทั่งทางครอบครัวได้เดินทางไปดูที่เกิดเหตุ พร้อมกับพานางลัดดาไปด้วย ซึ่งทุกคนก็อยากจะไปเห็นกับตาว่าเรื่องราวที่ได้ยินมาเป็นจริงหรือไม่ เมื่อนางลัดดาไปที่เกิดเหตุก็ช็อก ทำอะไรไม่ถูก ซึ่งต่อมานายบิณฑ์ บัณลือฤทธิ์ ได้เข้าไปช่วยเหลือเพราะค่อนข้างจะสนิทกับน้องอิน ตอนนี้นางลัดดาก็ยังทำใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ ซึ่งวันนี้ทั้งวันก็ได้แต่นิ่งเงียบ ไม่พูดไม่จา ตนเลยตั้งใจว่าคืนนี้จะมานอนเป็นเพื่อน เพราะที่ผ่านมาน้องอินจะอยู่กับแม่ตลอด อาจจะมีบ้างที่ติดเรียนก็จะไปนอนหอพักกับเพื่อน รวมๆแล้วน้อนอินเป็นเด็กดี ขยันทำงานหาเงิน ซึ่งตนก็จะคอยบอกกับหลานเสมอว่าให้ตั้งใจเรียน จะทำอะไรก็แล้วแต่ เรื่องเรียนต้องสำคัญที่สุด นางอัมพร เล่าว่า นางลัดดา ได้เล่าให้ตนฟังว่าเมื่อคืนยังโทรศัพท์ติดต่อกับน้องอิน ก่อนจะขาดการติดต่อกันไป ซึ่งในวันนี้นางลัดดามีอาการซึมเศร้าอย่างเห็นได้ชัด และก็คอยรับโทรศัพท์เกือบจะทั้งวัน ตนเลยแนะนำว่าถ้าสายไหนสำคัญก็รับถ้าสายไหนไม่สำคัญก็ไม่ต้องรับ เพราะยิ่งพูด ยิ่งคุย ก็เหมือนยิ่งตอกย้ำ ตนได้คุยกับน้องอินครั้งล่าสุดเมื่อประมาณ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ หรือไม่มีลางบอกเหตุไดๆ และเมื่อเช้าที่ผ่านมาก็ไม่มีอะไรผิดปกติ แต่พอทราบเรื่องก็ช็อกไม่คิดว่าน้องอินจะจากไปเร็วแบบนี้ ส่วนเรื่องการผ่าชันสูตรนั้น ทางญาติมีความเห็นว่าคงจะไม่ผ่า เนื่องจากกรณีดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุ
ด้าน “หนุ่ม” สุรวุฑ ไหมกัน ดารานักแสดง ได้กล่าวกับทีมข่าวว่า ตนได้ทราบข่าวการเสียชีวิตของน้องอินแล้วและรู้สึกตกใจ หลังจากละครปิดกล้องไปก็ไม่ได้เจอกันอีก จนกระทั่งเมื่อ 2-3 ปีก่อน ที่น้องอินได้เข้ามาทักตนตอนที่อยู่หัวหิน และตนจะเดิินทางกลับกรุงเทพในวันที่ 8 หรือ 9 เม.ย.นี้ และจะนัดเจอกับ “อู ภาณุ” เพื่อเดินทางไปเพื่อสวดพระอภิธรรมน้องอินด้วยกัน ในฐานะคนเคยร่วมงานกันว่า น้องอินเป็นเด็กดี ตั้งใจทำงาน เป็นเด็กรักแม่ สมัยเด็กที่ยังอ่านบทไม่ออกก็จะให้แม่อ่านให้ฟัง สงสารน้อง เสียดายอนาคต เสียใจแทนคุณแม่ คงไม่สามารถทำให้คุณแม่รู้สึกดีขึ้นได้ในตอนนี้ “หนุ่ม” สุรวุฑ กล่าวต่อว่า ตนก็เพิ่งมีลูก เข้าใจแม่ว่าต้องเสียใจมากเพราะดูแลกันมาและน้องสนิทกับแม่มาก น้องไม่อยู่ในวัยที่ควรจะจากไป สงสารคุณแม่และตนขอให้คุณแม่มีกำลังใจที่จะสู้ต่อไป
VDO
แม่ “น้องอิน” ซึมเศร้า “หนุ่ม สุรวุฑ” เข้าใจหัวอกสูญเสียลูก – กู้ภัยผงะ งัดร่างพบกะโหลกแหลก (คลิป)
